HATYAI POLL ครั้งที่ 1 เรื่อง “ สำรวจคะแนนนิยมการเลือกตั้ง 54 ”

HATYAI POLL ครั้งที่ 1 เรื่อง “ สำรวจคะแนนนิยมการเลือกตั้ง 54 ”

หัวข้อ : HATYAI POLL ครั้งที่ 1 เรื่อง “ สำรวจคะแนนนิยมการเลือกตั้ง 54 ”

เมื่อวันที่ 26/1/2555    โดย สำนักวิจัย
หาดใหญ่โพล  สำนักวิจัยและพัฒนา  มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความคิดเห็นของประชาชน 6 จังหวัดภาคใต้  ประกอบด้วยจังหวัดสงขลา สตูล พัทลุง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาสเกี่ยวกับการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการเลือกตั้ง   โดยเก็บรวบรวมข้อมูลประชาชน จำนวน 1,201  ตัวอย่าง และใช้แบบสำรวจเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ดำเนินการสำรวจระหว่างวันที่   20  – 23 มิถุนายน  2554  สรุปผลการสำรวจ ดังนี้

 

 

สถานภาพกลุ่มตัวอย่าง

กลุ่มตัวอย่างในการสำรวจครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (ร้อยละ  58.3)  อายุระหว่าง 20-30 ปี (ร้อยละ 39.9) รองลงมา  มีอายุระหว่าง  31-40 ปี (ร้อยละ 29.4)  และอายุ 41-60 ปี (ร้อยละ 15.7) ตามลำดับ นอกจากนี้         กลุ่มตัวอย่างมีอาชีพนักเรียน/นักศึกษา  (ร้อยละ  29.3)  รองลงมา  พนักงานบริษัท/ลูกจ้าง , รับจ้างทั่วไปและข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ    คิดเป็นร้อยละ  15.3 , 14.0  และ 10.2 ตามลำดับ

สรุปผลการสำรวจ

รศ. ทัศนีย์ ประธาน  รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย  มหาวิทยาลัยหาดใหญ่  เปิดเผยผลการสำรวจหาดใหญ่โพล พบว่า   ประชาชน 6 จังหวัดภาคใต้ จะเลือกผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์  22 ที่นั่งจาก 24 ที่นั่ง โดยที่จังหวัดนราธิวาส  คาดว่าจะมีผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทย เขต2 และพรรคมาตุภูมิ (เขต 3)  สามารถชนะการเลือกตั้งในครั้งนี้ได้

ส่วนการเลือกตั้งในระบบบัญชีรายชื่อ พบว่า  ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 52.5 จะเลือกพรรคประชาธิปัตย์ มากที่สุด (มีแนวโน้มลดลงจากผลการสำรวจครั้งที่1 ร้อยละ 70.1)รองลงมา พรรคเพื่อไทย  พรรคชาติไทยพัฒนา  พรรครักประเทศไทย พรรคภูมิใจไทย  พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน และพรรคพลังชล คิดเป็นร้อยละ  18.5 , 9.7 , 2.2 , 2.1 และ 2.1 ตามลำดับ  ทั้งนี้ประชาชนร้อยละ 4.9 จะไม่เลือกพรรคใดเลย (โหวตโน) คาดว่าจะมีผู้ไม่ประสงค์ลงคะแนนอย่างน้อยประมาณ 2 แสน

ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 68.2 ต้องการเห็นพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งมากกว่าการจะให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล (ร้อยละ 31.8) แต่เมื่อเปรียบเทียบกับผลการสำรวจครั้งที่ 1 พบว่า ประชาชนต้องการเห็นพรรคประชาธิปัตย์ เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลมีแนวโน้มลดลง จากร้อยละ 76.8 เหลือเพียงร้อยละ 68.2 เท่านั้น

                ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ 69.3 ต้องการเห็นการแสดงวิสัยทัศน์(ดีเบต)ของพรรคการเมืองอีกครั้ง มีเพียงร้อยละ 30.7 ที่ไม่ต้องการให้มีการดีเบตอีก

ดาวน์โหลดไฟล์