ดร.ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ : แนวทางดำเนินชีวิต

ดร.ประสิทธิ์ รัตนพันธ์ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ : แนวทางดำเนินชีวิต

การดำเนินชีวิตท่ามกลางสถานการณ์ที่ไม่แน่นอน มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และทุกคนก็ต้องการความอยู่รอด ภายใต้สังคมและสิ่งแวดล้อมที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน แย่งชิง อันเป็นเหตุมาจากทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด แต่ทุกคนต้องการแสวงหาโอกาสและสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตนเอง ผนวกกับความต้องการที่หลากหลายของแต่ละคนอย่างไม่มีที่สิ้นสุด จึงทำให้ทุกคนต้องดิ้นรน ใช้ความพยายามเพื่อให้ได้มาในสิ่งที่แต่ละคนปรารถนามากเพิ่มขึ้น มีการพัฒนาวิธีการดำเนินชีวิตให้ก้าวทันเทคโนโลยีและสร้างค่านิยมใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นตามมา เมื่อมีโอกาสและทางเลือกก็ย่อมต้องการในสิ่งที่ทำให้ชีวิตมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งภายใต้สถานการณ์ปัจจุบันก็มีปัจจัยต่างๆมากมายที่ส่งผลต่อความสำเร็จ สามารถบรรลุเป้าหมายตามที่แต่ละคนต้องการ ถือว่าเป็นกุญแจที่ไขประตูให้คนเราก้าวไปสู่เป้าหมายที่แต่ละคนได้กำหนดขึ้นมา แนวทางที่ส่งผลให้การดำเนินชีวิตไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จได้ ประกอบด้วย 1.ความซื่อสัตย์ในการดำเนินชีวิตของคนเราต้องเริ่มต้นที่ความซื่อสัตย์ต่อตนเอง ครอบครัว แล้วซื่อสัตย์ต่อสังคมและสิ่งรอบข้าง หากเป็นนักธุรกิจก็จะต้องซื่อสัตย์ต่อลูกค้า บริษัท เพื่อนร่วมอาชีพ หน่วยงานองค์กรที่เกี่ยวข้องต่างๆ ตลอดจนสังคมและสิ่งแวดล้อม จะต้องไม่ลืมว่าปัจจุบันเป็นยุคของเทคโนโลยี และสังคมของสื่อออนไลน์ ทำให้ข้อมูลข่าวสารแพร่กระจายเร็วมาก ดังนั้น ความซื่อที่พึงมีฝังแน่นในจิตใจคนเราก็คือความซื่อสัตย์ต่อตนเองและผู้อื่นทั้งต่อหน้าและลับหลัง 2.การรู้จักข่มใจฝึกใจตนเองให้ประพฤติปฏิบัติอยู่ในความสัตย์ความดี สังคมปัจจุบันเต็มไปด้วยสิ่งยั่วยุ สร้างให้เกิดกิเลส ตัณหา ราคะ ความโลภ ความหลง การรู้จักข่มใจถือเป็นสิ่งที่สร้างภูมิคุ้มกันไม่ให้ผู้นำ หรือผู้บริหารหลงอำนาจ ผู้น้อยก็จะลดความโลภ ความอยากเกินตัว รู้จักการปกป้องตัวเอง จะทำให้ดำเนินชีวิตอย่างพอดี พอเพียง มีความสุข และประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างแท้จริง 3.การอดทน อดกลั้น และอดออม การดำเนินชีวิตย่อมต้องเผชิญกับอุปสรรคและปัญหา ต้องมีความกระตือรือร้นในการปฏิบัติงาน มีการเรียนรู้ และพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอ ดำรงชีพและปฏิบัติตนอย่างพอประมาณ รู้จักความพอดี ที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป ไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น รู้จักเลือกอาชีพที่เหมาะสมกับความสามารถและศักยภาพของตนเอง ไม่ตั้งเป้าหมายเกินจริง เพื่อนำพาตนเองให้ก้าวไปสู่เป้าหมาย 4.การรู้จักละวางความชั่ว ความทุจริต และรู้จักสละประโยชน์ส่วนน้อยของตน เพื่อประโยชน์ส่วนรวม การดำเนินธุรกิจมักจะคำนึงถึงผลประโยชน์ขององค์กรเป็นหลัก เพื่อมุ่งเน้นนำองค์กรให้บรรลุสู่เป้าหมาย เมื่อองค์กรมุ่งแต่ผลประโยชน์ให้บรรลุเป้าหมายจนทำให้จิตใต้สำนึกลดน้อยลง หากทุกคนเลือกเส้นทางสู่ความสำเร็จอย่างมีความสุข มีจิตใต้สำนึก คำนึงถึงจริยธรรม จรรยาบรรณ แล้วผลประโยชน์ส่วนตนก็จะตามมา ความสำเร็จก็จะบังเกิดอย่างยั่งยืน การดำเนินชีวิตของมนุษย์แต่ละคน จะมีเป้าหมายไปในทิศทางเดียวกันคือ “ทุกคนต้องการให้ชีวิตความเป็นอยู่มีคุณภาพที่ดีขึ้นและมีความสุขในทุกๆ วัน” แต่เมื่อบางคนได้เจอกับกิเลส ตัณหา และราคะเข้ามาครอบงำก็จะลืมเป้าหมายของชีวิตที่แท้จริงซึ่งควรจะดำเนินไป จึงจำเป็นต้องนำแนวทางเหล่านี้ไปใช้ในการเตรียมตัวให้พร้อมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตนเองสอดรับกับการเปลี่ยนแปลง มีความสามารถในการปรับตัว และพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่ดีขึ้น