HATYAI POLL ครั้งที่ 11 เรื่อง “การเฝ้าระวังภาวะเศรษฐกิจและสังคมภาคใต้”

HATYAI POLL ครั้งที่ 11 เรื่อง “การเฝ้าระวังภาวะเศรษฐกิจและสังคมภาคใต้”

หาดใหญ่โพล โดยสำนักวิจัยและพัฒนา  มหาวิทยาลัยหาดใหญ่  มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจ            ความคิดเห็นของประชาชนใน 14 จังหวัดภาคใต้  เกี่ยวกับมุมมองภาวะเศรษฐกิจและสังคมภาคใต้   โดยเก็บรวบรวมข้อมูลประชาชน จำนวน 1,071 ตัวอย่าง และใช้แบบสำรวจเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ดำเนินการสำรวจระหว่างวันที่   6-11  มกราคม 2555 สรุปผลการสำรวจ ดังนี้

สถานภาพกลุ่มตัวอย่าง

กลุ่มตัวอย่างในการสำรวจครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง (ร้อยละ 58.9)  อายุระหว่าง 21-30 ปี (ร้อยละ35.0) รองลงมา  มีอายุระหว่าง  31-40 ปี (ร้อยละ 26.7)  และอายุ 41-50 ปี (ร้อยละ 15.9)ตามลำดับ นอกจากนี้         กลุ่มตัวอย่างมีอาชีพพนักงานบริษัท/ลูกจ้าง (ร้อยละ  23.5)  รองลงมา  นักเรียน/นักศึกษา , รับจ้างทั่วไป  , ประกอบกิจการส่วนตัว/ค้าขาย และข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ  คิดเป็นร้อยละ  23.4 , 16.7 , 15.3  และ 11.1  ตามลำดับ     

สรุปผลการสำรวจ

รศ. ทัศนีย์ ประธาน  รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย  มหาวิทยาลัยหาดใหญ่  เปิดเผยผลการสำรวจหาดใหญ่โพล พบว่า  ประชาชน 14 จังหวัดภาคใต้  ร้อยละ 46.2  มีสถานะการเงินโดยมีรายจ่ายมากกว่ารายได้ และร้อยละ 27.3   มีสถานะการเงินโดยมีรายได้มากกว่ารายจ่าย  มีเพียงร้อยละ  26.5 ไม่เหลือเก็บแต่ไม่มีหนี้สิน  นอกจากนี้ประชาชนร้อยละ 56.4  มีภาระหนี้สินโดยที่ประชาชนร้อยละ  29.4  มีภาระหนี้ไม่เกิน  50,000 บาท รองลงมา  มีภาระหนี้สิน  200,001 – 500,000 บาท และ 50,001 – 100,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 8.8 และ 8.7  ตามลำดับ 

ประชาชนส่วนใหญ่ร้อยละ  67.6  สามารถเก็บเงินในแต่ละเดือนได้  โดยที่ประชาชนร้อยละ 29.6 สามารถออมเงินได้แต่ไม่เกิน 1,000 บาทต่อเดือน มากที่สุด รองลงมา 1,001-3,000 บาทต่อเดือน และ 5,001-10,000 บาทต่อเดือน คิดเป็นร้อยละ 17.1 และ  10.1  ตามลำดับ  มีเพียงประชาชนร้อยละ 32.4 ที่ไม่สามารถออมเงินได้ 

                ประชาชนร้อยละ 35.1  เห็นว่าปัญหาการเมืองส่งผลต่อความเชื่อมั่นของรัฐบาล มากที่สุด รองลงมา เป็นปัญหาการคอร์รัปชั่นและปัญหาเศรษฐกิจ คิดเป็นร้อยละ 28.2  และ 17.0  ตามลำดับ ทั้งนี้ประชาชนร้อยละ 42.1 มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขึ้นราคาแก๊ส NGV อยู่ในระดับปานกลาง และร้อยละ 36.0  มีความวิตกกังวลเกี่ยวกับการขึ้นราคาแก๊ส NGV อยู่ในระดับมากถึงมากที่สุดมีเพียงร้อยละ 21.9วิตกกังวลเกี่ยวกับการขึ้นราคาแก๊ส NGV อยู่ในระดับน้อยถึงน้อยที่สุด

ประเด็นปัญหาคะแนนเต็ม (7 คะแนน)
ไตรมาสผ่านมาไตรมาสปัจจุบัน
1. ความเชื่อมั่นต่อการดำเนินงานของรัฐบาล3.543.23
2. ความวุ่นวายทางการเมือง4.054.56
3. เหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้4.444.68
4. การคอร์รัปชั่นในแวดวงการเมืองและราชการ4.524.88
5. สภาพเศรษฐกิจของประเทศ4.494.56
6. ราคาน้ำมัน4.694.63
7. ราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ4.664.66
8. การว่างงาน4.524.30
9. ความมั่นคงในหน้าที่การงาน4.434.14
10. สภาพเศรษฐกิจของครอบครัว4.314.05
11.  คุณภาพการศึกษา4.263.92
12. ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน4.254.00
13. ปัญหาวัยรุ่น/บุตรหลาน             4.194.05
14. ยาเสพติดในชุมชน4.324.48
15. ปัญหาสุขภาพของบุคคลในครัวเรือน4.083.76
16. การทะเลาะของบุคคลภายในครัวเรือน3.893.46
17. ภัยพิบัติทางธรรมชาติ (น้ำท่วม,ภัยแล้ง ฯลฯ)4.584.54
ภาพรวม4.314.25

ประชาชน 14 จังหวัดภาคใต้ภาพรวมของปัญหาที่ได้ส่งผลกระทบต่อประชาชนอยู่ในระดับปานกลาง  มีค่าเฉลี่ย  4.25 คะแนน (จากคะแนนเต็ม 7 คะแนน)  และเมื่อพิจารณาตามประเด็นของปัญหา พบว่า  ประชาชนเห็นว่าปัญหาการคอร์รัปชั่นในแวดวงการเมือง/ราชการ เป็นปัญหาที่ได้รับผลกระทบต่อประชาชน  มากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.88 คะแนน รองลงมา  ปัญหาเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  ปัญหาเกี่ยวกับการปรับราคาสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ  ปัญหาราคาน้ำมัน ปัญหาสภาพเศรษฐกิจของประเทศ และปัญหาความวุ่นวายทางการเมือง โดยมีค่าเฉลี่ย 4.68 , 4.66  , 4.63  , 4.56 และ 4.56  ตามลำดับ

• ดาวน์โหลดบทความ